

เลือกอ่านเนื้อหา
- 1. 10 เหตุผลทำไมต้องเสริมหน้าอกกับ "หมอเติ๊ด"
- 2. รูปแบบการเสริมหน้าอก
- 3. ชนิดของซิลิโคนเสริมหน้าอก
- 4. วิธีเลือกขนาดซิลิโคนให้เหมาะสมกับขนาดตัว
- 5. วิธีการนวดหลังเสริมหน้าอก
- 6. วิธีใส่ซัพพอร์ทบราหลังการเสริมหน้าอกที่ถูกต้อง
- 7. การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก
- 8. รีวิวเสริมหน้าอกที่ The Class Clinic
ศัลยกรรมเสริมหน้าอก
เพิ่มเสน่ห์ เสริมบุคลิกภาพ ให้กับคุณผู้หญิงได้มีความมั่นใจแบบสาวยุคใหม่ ที่มีความ Beauty ทั้งภายในและภายนอก




















10 เหตุผลทำไมต้องเสริมหน้าอกกับ "หมอเติ๊ด"
การทำศัลยกรรมทั้งที ทุกคนต่างย่อมต้องอยากได้ผลลัพธ์ให้ออกมาดีที่สุด ถ้าจะลองลิสท์เหตุผลเพื่อประกอบการตัดสินใจว่า “ทำไมต้องเสริมหน้าอกกับหมอเติ๊ด” ก็จะขอสรุปง่ายๆ เป็น 10 เหตุผลประมาณนี้




รูปแบบการเสริมหน้าอก
ปัจจุบันมี 2 แบบ สามารถทำแบบใดแบบหนึ่งหรือทำร่วมกันทั้งสองอย่างในครั้งเดียว (Hybrid Technique) ก็ได้ ประกอบด้วย
- การเสริมหน้าอกด้วยเต้านมเทียม (Breast Implant Augmentation)
- การเสริมหน้าอกด้วยไขมันตัวเอง (Fat Transfer Augmentation) เป็นวิธีที่เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะใช้เซลล์ไขมันตัวเองนำมาผ่านอุปกรณ์พิเศษเพื่อปั่นแยกให้มีอนุภาคเล็กจากนั้นจึงทำการฉีดกลับเข้าสู่ร่างกายเพื่อเติมเต็มเฉพาะส่วนที่ต้องการ มีข้อดีคือลดโอกาสการเกิดการต่อต้านจากภูมิคุ้มกันอัตโนมัติของร่างกายเนื่องจากเป็นเซลล์ที่ร่างกายของเรารู้จักดีอยู่แล้วและมีความเป็นธรรมชาติสูง แต่มีข้อจำกัดหลายเรื่อง ได้แก่ จำเป็นต้องมีการผ่าตัดเพิ่มเติมคือการดูดไขมัน และการอยู่ตัวของไขมันที่ฉีดอาจแตกต่างกันในแต่ละบุคคล
ชนิดของซิลิโคนเสริมหน้าอก
การแบ่งชนิดของซิลิโคนแบ่งได้หลายแบบ ได้แก่
- แบ่งตามสิ่งที่บรรจุอยู่ข้างใน เช่น แบบบรรจุน้ำเกลือ และแบบบรรจุซิลิโคนเจล (ซึ่งในปัจจุบันเกือบทั้งหมดจะใช้แบบบรรจุซิลิโคนเจล)
- แบ่งตามผิวภายนอกซิลิโคน มี 2 ชนิด ได้แก่
- ผิวภายนอกซิลิโคนชนิดผิวเรียบ(Smooth Surfaced)
- ผิวภายนอกซิลิโคนชนิดผิวหยาบหรือผิวทราย(Textured Surfaced)
- แบ่งตามรูปทรงของซิลิโคน ได้แก่
- ทรงกลม (Round): จะกลมเท่ากันทั้งลูก เหมือนลูกบอลที่กลิ้งไปมาได้ ไม่มีปัญหาในการดูแลระยะยาว
- ทรงหยดน้ำ (Teardrop): ออกแบบมาเพื่อให้เหมือนหน้าอกจริง ด้านบนจะแบน ด้านล่างจะคล้อยลงมา แต่ปัญหาคือผ่าตัดและดูแลยากกว่าทรงกลม ต้องใช้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูงเนื่องจากมีโอกาสที่ซิลิโคนจะหมุนกลับด้าน และเมื่อมีปัญหาต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดซ้ำ หรือต้องนวดบ่อยๆ เพื่อช่วยให้ซิลิโคนเข้าที่
ซึ่งซิลิโคนแต่ละชนิดจะมีทั้งขนาดและความนูนในระดับต่างๆ ให้เลือกตามความเหมาะสมตามลักษณะทางกายภาพเดิมของผู้รับการผ่าตัด
วิธีเลือกขนาดซิลิโคนให้เหมาะสมกับขนาดตัว
บางคนอาจมีความคิดว่าถ้าจะเจ็บตัวทั้งทีควรทำให้ใหญ่ไปเลย แต่ในความจริงแล้วการเลือกขนาดของซิลิโคนควรคำนึงถึงสรีระของเราด้วย เนื่องจากขนาดที่ไม่เหมาะสมจะทำให้เกิดผลเสียตามมา ได้แก่
- หน้าอกที่ใหญ่เกินไป จะทำให้รู้สึกแน่น หายใจไม่ออก และปวดหลัง
- เกิดปัญหาหัวนมชา เนื่องจากซิลิโคนขนาดใหญ่ไปเบียดหัวนมและเส้นประสาท
- ยิ่งขนาดใหญ่มากโอกาสที่นมจะแข็งเพราะพังผืดรัดตัวก็ยิ่งสูงขึ้น
โดยการเลือกขนาดซิลิโคนที่เหมาะสมศัลยแพทย์จะเป็นผู้วิเคราะห์และประเมินจากปัจจัยหลายอย่าง ได้แก่
- ขนาดความสูงและความกว้างของลำตัว
- การวัดขนาดรอบอก วัดเส้นผ่านศูนย์กลางหน้าอก วัดความสูงหน้าอก วัดระยะจากหัวนมถึงฐานนม
- ลักษณะของเนื้อหน้าอกเดิม เช่น ความหย่อนคล้อย ความหนาของผิวหนัง และไขมันบริเวณหน้าอก
วิธีการนวดหลังเสริมหน้าอก
การผ่าตัดเสริมหน้าอก ที่เป็นอีกศัลยกรรมที่ฮอตฮิตทั้งในหมู่สาวแท้สาวเทียมมานาน แท้ที่จริงแล้ว การจะมีหน้าอกที่ดูเป็นธรรมชาติ รูปทรงสวยเข้าที่ นุ่มนิ่ม เต่งตึง เด้งราวกับเป็นเต้านมแท้ที่คุณแม่ให้มา น่ามองและน่าสัมผัส มิใช่แค่ผ่าตัดเสร็จก็จบเรื่องหรอกนะ แต่จะอยู่ที่อีกหนึ่งเคล็ดลับสำคัญก็คือ การ “นวด” ที่ต้องนวดอย่างถูกวิธี นวดอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่องตามที่แพทย์แนะนำ
คำถาม: แล้วต้อง นวดหน้าอก นานขนาดไหน และบ่อยขนาดไหน เรามาทำความเข้าใจกันก่อน
การนวดหน้าอกที่ถูกวิธี


ใช้มือดันซิลิโคน จากด้านนอกเข้าด้านใน เซ็ทละ10-15 ครั้ง, เช้า-เย็น
ใช้นิ้วบีบขอบบนซิลิโคน ให้รู้สึกได้ว่าชิ้นซิลิโคนมีการเคลื่อนที่
นวดอกวนรอบๆ เต้านม จะนวดคลึงแบบ ตามเข็มนาฬิกา หรือ ทวนเข็มนาฬิกาก็ได้ ส่วนนี้ ถ้านวดได้ดี จะทำให้เนื้อนมนิ่มไว ไม่แข็งตึง
ใส่ซัพพอร์ตบรา และแถบรัดหน้าอก อย่างต่ำ 3 เดือน
**ตำแหน่งของแถบรัดหน้าอก ให้ปรึกษาแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเพื่อแนะนำให้ตามความเหมาะสมของแต่ละเคส
การนวดหน้าอกเพื่อวัตถุประสงค์อะไร
นวดหน้าอก หลังเสริมอก เพื่อทำให้ ซิลิโคนหน้าอก อยู่ในโพรงและตำแหน่งที่เหมาะสม
- เพราะหลังจากที่มีการเสริมหน้าอกไปแล้ว กลไกทางธรรมชาติของร่างกายจะสร้างพังผืดขึ้นมาจับรอบๆ ซิลิโคน พอผ่านไปนานๆ พังผืดก็จะรัดตัว ส่งผลให้เต้านมแข็ง เป็นก้อน เป็นบล็อค ดูไม่สวยงาม ไม่เป็นธรรมชาติ หากเป็นมากก็จะมีอาการปวดหรืออักเสบได้
“การนวดนม…ไม่ใช่เป็นการรักษาพังผืด แต่หากเป็นการป้องกัน ชะลอการเกิดหรือทำให้เกิดพังผืดช้าที่สุด”
- หลังผ่าตัด ยังไม่ต้องนวดใดๆ จนกว่าจะครบ 2 สัปดาห์ และ ต้องหายเจ็บปวดแล้วเท่านั้น
- ในการนวดไม่จำเป็นต้องนวดที่ร้าน สามารถนวดเองได้ในขณะที่อาบน้ำเช้าและเย็น โดย นวดเท่าที่ไหว ไม่ต้องกดนวดรุนแรง หรือลงน้ำหนักมือมากเกินไป เดี๋ยวจะเจ็บแผล และช่วงนั้น หน้าอกยังไม่เข้าที่ค่ะ จะระบมได้
หลังจากหน้าอกเริ่มเข้าที่ ให้นวดตามวิธีที่แนะนำดังนี้ (ดูภาพประกอบด้านล่าง)
นอกจากนี้ ยังสามารถปิด แผ่นกันรอยแผลเป็น (silicone sheath) ช่วยป้องกันการเกิดแผลเป็นนูน แนะนำให้ปิดไปอย่างน้อย 3 – 6 เดือน ขึ้นกับสภาพผิวของแต่ละคน เพราะ อัตราการเกิดแผลเป็นของแต่ละคนไม่เท่ากัน หรือจะใช้เป็น ยาลดรอยแผลเป็นก็ได้
📌โดยทั่วๆ ไปแล้ว จะเน้นให้นวดหน้าอก บ่อยๆ ในช่วงเวลา 3 เดือนแรกหลังผ่าตัด และหลังจาก 6 เดือนไปแล้วก็ยังคงสามารถนวดได้ และนวดต่อไปได้จนถึง 2 – 3 ปีหลังเสริมหน้าอก แนะนำให้ทำเป็นกิจวัตรจนเป็นนิสัยจะดีมาก
📌การนวดหน้าอกนวดเองได้จากที่บ้านนะคะ ไม่จำเป็นต้องไปนวดร้าน ควรใช้น้ำหนักมือในการนวด แบบพอดี ไม่ต้องหนักเกินไป หน้าอกของเรา เรานวดเองได้ หรือจะให้คุณแฟนช่วยนวดได้ก็ได้ค่ะ
วิธีใส่ซัพพอร์ทบราหลังการเสริมหน้าอกที่ถูกต้อง


วิธีการใส่ซัพพอร์ทบราหลังการผ่าตัดเสริมเสริมหน้าอก ถือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่หลายๆ คนมักจะมองข้าม แต่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งนี้มีผลต่อรูปทรงของหน้าอกหลังการศัลยกรรมเป็นอย่างมากว่าจะมีรูปทรงเป็นไปตามเทคนิควิธีการของแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดให้รึป่าว
การใส่ซัพพอร์ทบราหลังการเสริมหน้าอก มีวัตถุประสงค์เพื่อควบคุมตำแหน่งซิลิโคนให้คงที่อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ เนื่องจากการผ่าตัดแรกๆ แผลด้านในโพรงช่องอกยังไม่สมาน ร่างกายยังไม่เกิดการสร้างพังผืดบางๆ (เป็นกลไกตามธรรมชาติของร่างกายที่ต้องและควรเกิดขึ้นสำหรับผู้ใส่ซิลิโคนเต้านมเทียมทุกคนเพียงแต่ในเกณฑ์ปกติควรเกิดพังผืดบางๆ ระดับ1-2 เท่านั้น) มาช่วยยึดเกาะซิลิโคนไม่ให้เคลื่อนที่ไปตำแหน่งอื่น
ผู้รับการเสริมหน้าอกทุกคน ควรใส่ซัพพอร์ทบราตลอด 24 ชั่วโมง ในช่วง 3 เดือนแรก ของการผ่าตัด และในส่วนตำแหน่งของสายรัดหน้าอก ว่าจะต้อง คาดบน หรือ คาดล่าง ควรให้แพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเป็นผู้แนะนำ เพื่อพิจารณาให้ตามความเหมาะสม ของแต่ละเคส และแต่ละช่วงระยะเวลา เนื่องจากแต่ละคนมีปัจจัยทางด้านกายภาพที่แตกต่างกัน จึงอาจมีความจำเป็นในการต้องได้รับการดูแลหลังผ่าตัดแตกต่างกันบ้างเล็กน้อยในบางรายละเอียด
การดูแลตัวเองหลังการผ่าตัดเสริมหน้าอก
รับประทานยาฆ่าเชื้อติดต่อกันทุกวันทุกมื้อจนหมด
ห้ามใช้มือพยุงตัวเองในการลุกจากเตียง ห้ามถือของหนัก(รวมถึงกระเป๋าถือ) ห้ามกางแขน ควรแนบแขนไว้กับตัวตลอด 2 สัปดาห์
ห้ามโดนน้ำ 7 วัน
ห้ามแกะผ้าพันที่แพทย์พันให้ออกโดยเด็ดขาดไม่ว่ากรณีใดๆ จนกว่าจะมาพบแพทย์ ตามวันและเวลาที่นัด!!
หลังผ่าตัด ยังไม่ต้องนวดใดๆ จนกว่าจะครบ 2 สัปดาห์ และ ต้องหายเจ็บปวดแล้วเท่านั้น ในการนวดไม่ต้องนวดที่ร้าน สามารถนวดเองได้ในขณะที่อาบน้ำเช้าและเย็น โดยการดันซิลิโคนเข้าหากัน ประมาณ 10-15 ครั้ง
ในวันนัดติดตามอาการหลังผ่าตัด ให้คนไข้เตรียมซัพพอร์ตบราที่จะเปลี่ยนกลับมาด้วย
ต้องใส่ซัพพอร์ตบราหลังผ่าตัดตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 3 เดือน
(ข้อควรระวัง : การใส่ซัพพอร์ตบราผิดวิธี อาจมีผลทำให้เกิดปัญหาซิลิโคนลอยได้)
รีวิวเสริมหน้าอกที่ The Class Clinic























