การเสริมจมูกแบบโอเพ่น

(Open Rhinoplasty หรือ Open Reconstruction)

ก่อนที่จะพิจารณาวิธีการผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิดหรือแบบเปิด สิ่งสำคัญคือต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่าการผ่าตัดเสริมจมูกนี้คืออะไร

Golden ratio for female Asian noses
Golden Ratio สำหรับจมูกสาวเอเชีย

การผ่าตัดเสริมจมูกเป็นการผ่าตัดเพื่อปรับปรุงแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างจมูกอาจจะเพียงแค่หนึ่งหรือหลายปัญหาในคราวเดียวกัน แม้ว่าการผ่าตัดเสริมจมูกส่วนใหญ่มักเป็นการทำเพื่อเสริมความงาม แต่จริงๆ แล้วการผ่าตัดนี้ก็มีประโยชน์ด้านอื่นอย่างเรื่องสุขภาพเช่นกัน เช่นในเคสที่ต้องการเปลี่ยนแปลงแก้ไขโครงสร้างของจมูกให้ดีขึ้นเพื่อการหายใจได้ดีขึ้น

เหตุผลในการผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิดหรือแบบเปิด

ไม่ว่าจะใช้เทคนิคใดในการผ่าตัด สิ่งต่างๆ ต่อไปนี้เป็นสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดที่คนไข้เข้ามาขอทำศัลยกรรมจมูก ได้แก่เหตุผลที่ว่า ไม่พอใจกับจมูกที่เกิดมา หรือบางคนต้องการแก้ไขการเปลี่ยนแปลงจมูกจากการบาดเจ็บ เช่น การบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรืออุบัติเหตุทางรถยนต์ บ่อยครั้งที่คนไข้บอกเหตุผลว่ารู้สึกจมูก:

  • ไม่ใช่ขนาดหรือสัดส่วนที่เหมาะสมกับใบหน้า (จมูกที่ใหญ่หรือเล็กเกินไป)
  • มีรอยกระแทกที่ดั้งจมูก
  • จมูกดูกว้างเกินไปสำหรับใบหน้า
  • มีปัญหาเกี่ยวกับปลายจมูกที่สั้นหรือยื่นยาวเกินไป
  • มีรูจมูกที่บานหรือบีบแบนเกิน
  • โครงจมูกคดเคี้ยวหรือไม่สมส่วน

ปัจจัยเหล่านี้ล้วนสามารถแก้ไขได้ด้วยการผ่าตัดเสริมจมูกทั้งสิ้น

การเสริมจมูกมีกี่วิธีอะไรบ้างและแต่ละวิธีแตกต่างกันอย่างไร?

Closed-Rhinoplasty-Open-Rhinoplasty-iran

การเสริมจมูกหลักๆ แล้วจะมีอยู่ 2 วิธี คือ การเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty) กับ การเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty) ซึ่งทั้ง 2 วิธีนี้แตกต่างกันที่วิธีการเปิดแผล โดยศัลยแพทย์จะเป็นผู้ประเมินว่าใครควรจะได้รับการเสริมหรือแก้จมูกด้วยวิธีใดโดยพิจารณาจากปัจจัยทางการแพทย์หลายๆ อย่าง

Close Rhino3
  1. การผ่าตัดเสริมจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty): เป็นรูปแบบที่ใช้กันทั่วไปและใช้กันมายาวนาน ปัจจุบันวิธีนี้ก็ยังมีใช้กันอยู่ เป็นการเปิดแผลด้านในรูจมูก จากนั้นใส่ซิลิโคนหรือกระดูกอ่อนเข้าไปเพื่อการเสริมจมูก และอาจมีการเพิ่มเทคนิคการนำวัสดุจากตัวคนไข้ เช่น กระดูกอ่อนจากหลังหู หรือกระดูกอ่อนจากซี่โครง หรือเนื้อเยื่อต่างๆ เช่น เนื้อเยื่อขมับ หนังแท้ หนังเทียม เข้าไปเสริมบริเวณปลายจมูก แต่มีข้อด้อยคือ เนื่องจากเป็นการผ่าตัดอย่างง่ายแพทย์ไม่สามารถปรับโครงสร้างจมูกได้ จึงเป็นการเสริมหรือแก้ไขเฉพาะบริเวณสันและปลายจมูก เทคนิคนี้เหมาะกับคนที่โครงสร้างฐานจมูกเดิมดีอยู่แล้วและต้องการเสริมเพิ่มอีกไม่มาก
Open Rhino3
  1. การผ่าตัดเสริมจมูกแบบเปิด (Open Rhinoplasty): มักเรียกกันทั่วไปว่า “การเสริมจมูกแบบโอเพ่น” เทคนิคนี้จะใช้วิธีผ่าตัดเปิดแผลบริเวณฐานจมูก เพื่อแพทย์จะสามารถมองเห็นและประเมินโครงสร้างและปัญหาภายในได้อย่างละเอียด ข้อดีคือ สามารถแก้ไขโครงสร้างจมูกได้ใหม่ทั้งหมด โดยใช้วัสดุที่มาจากตัวคนไข้เองทำให้ได้ผลลัพธ์ตรงตามที่ต้องการและปลอดภัย ไม่เสี่ยงปัญหาซิลิโคนทะลุหรือปลายบางในระยะยาว

การเสริมจมูกแบบโอเพ่น (Open Rhinoplasty หรือ Open Reconstruction) คืออะไร?

Incision of open rhino

การเสริมหรือแก้จมูกแบบ Open Rhinoplasty หรือ Open Reconstruction ก็คือเทคนิคเดียวกัน แล้วแต่ว่าจะเรียกแบบไหน โดยการเสริมหรือแก้จมูกแบบโอเพ่นนี้สามารถยืดปลายจมูกให้โด่งและพุ่งขึ้นได้ ด้วยวัสดุที่นำมาจากตัวคนไข้เอง เช่น กระดูกอ่อนหลังใบหู กระดูกอ่อนผนังกั้นกลางจมูก หรือ กระดูกอ่อนซี่โครงเป็นต้น ทำให้เลือดมาเลี้ยงได้ตามปกติ จึงมั่นใจได้ว่าจมูกจะไม่ทะลุตลอดชีวิต

ปัจจุบันเทคนิคนี้นิยมทำกันมากเพราะเป็นเทคนิคศัลยกรรมที่ช่วยแก้ไขให้รูปร่างจมูกให้ดูสมบูรณ์ขึ้น โดยแพทย์จะทำการเปิดเเผลบริเวณใต้จมูกตรงพื้นที่ระหว่างรูจมูกทั้งสองข้าง เผยให้เห็นโครงสร้างจมูกภายในทุกส่วนทำให้แพทย์สามารถวิเคราะห์ปัญหาและเข้าไปจัดการกับรูปทรงของจมูก รวมถึงการปรับโครงสร้างกระดูกอ่อนและเนื้อเยื่อขึ้นใหม่ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ เมื่อทำแล้วจมูกจะแลดูสมส่วนมากกว่า ลดการเสี่ยงเนื้อทะลุได้อย่างดีเยี่ยม และส่งผลที่น่าพอใจนี้ไปได้ในระยะยาว

การเสริมจมูกแบบโอเพ่น มีประโยชน์อย่างไร?

  • ตรง จุด เกิด เหตุ >> การเสริมจมูกแบบโอเพ่นช่วยให้แพทย์สามารถมองเห็นโครงสร้างจมูกได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถทำผ่าตัดและแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำและตรงจุด
  • สวยปลอดภัย..สบายใจระยะยาว >> ช่วยให้แพทย์สามารถปรับจมูกให้คงที่ได้ดีขึ้นหลังการผ่าตัด สามารถตกแต่งปลายจมูกด้วยกระดูกอ่อนต่างๆ ได้ เพื่อความสวยงามให้มีลักษณะเป็นหยดน้ำธรรมชาติ อีกทั้งยังลดความเสี่ยงเนื้อทะลุจากซิลิโคนในอนาคต ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าจมูกที่แก้ไขไปนั้นจะสวยปลอดภัยในระยะยาว
Open Rhino-The Class Clinic

การเสริมจมูกแบบโอเพ่น มีข้อด้อยอย่างไร?

  • ใช้เวลานานกว่าเนื่องจากต้องยกผิวหนังออกจากจมูกและด้วยเหตุนี้การผ่าตัดจึงใช้เวลาพักฟื้นนานขึ้นเล็กน้อย
  • รอยบากเล็กๆ อาจมองเห็นได้ที่ขอบจมูกด้านนอก แต่จะมองเห็นได้ก็ต่อเมื่อคุณเอียงศีรษะไปด้านหลัง แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเทคนิคและความเชี่ยวชาญของแพทย์ผู้ทำการผ่าตัดเป็นสำคัญด้วย
  • ราคาสูงกว่าเนื่องจากต้องอาศัยฝีมือและความเชี่ยวชาญของแพทย์ และเป็นเทคนิคที่ต้องแก้ไขโครงสร้างเยอะจึงควรต้องทำแบบดมยาสลบโดยวิสัญญีแพทย์และสอดท่อช่วยหายใจ ทำให้มีต้นทุนทางการแพทย์ที่สูงกว่า

การเสริมจมูกแบบโอเพ่น เหมาะกับใคร?

ไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องเสริมจมูกแบบโอเพ่นแล้วจะสวยจบ เพราะบางคนแค่เสริมซิลิโคนเข้าไปรองเนื้อเยื่อก็สวยแล้ว การเสริมจมูกแบบโอเพ่นจึงเหมาะกับคนที่มีปัญหาเรื่องโครงสร้างฐานกระดูกเช่น

  1. คนที่มี Hump เยอะ จนตะไบได้ไม่หมดหรือตะไบแล้วจะไปทำลายกระดูกอ่อนอื่นที่เป็นโครงสร้างของจมูก
  2. คนที่มีฐานโครงสร้างจมูกคดงอที่ต้องเข้าไปแก้ ไปดามโครงที่คดงอนั้น
  3. คนที่เคยฉีดฟิลเลอร์มาก่อน (ฟิลเลอร์ที่ไม่ดีมักก่อให้เกิดปัญหาการอักเสบติดเชื้อหรือกลายเป็นพังผืดแข็งๆ )
  4. คนที่ต้องการแก้ไขปัญหาปลายจมูกต่างๆ เช่น
    • แก้โครงกระดูกอ่อนปลายจมูกหนา, เนื้อหนา
    • แก้องศาปลายจมูกที่คว่ำไปหรือเชิดไป
    • แก้จมูกสั้นหรือยาวเกินไป
    • ต้องการความสวยงามให้ปลายจมูกพุ่งโด่งด้วยตัวกระดูกอ่อนของคนไข้เอง
  1. คนที่ผ่านการแก้มาแล้วหลายครั้งจนเกิดพังผืดสะสม จำเป็นต้องผ่าตัดขูดพังผืดทั้งหมดออกก่อน แล้วค่อยผ่าตัดแก้ทรงจมูกที่ผิดพลาดอันเก่าให้ดูดีขึ้น

ตัวอย่างกรณีเหล่านี้แพทย์จะแนะนำให้ทำแบบโอเพ่นเพราะว่าสามารถแก้ไขได้ตรงจุดและเนื้อเยื่อข้างในเสียหายน้อยกว่าการทำแบบclosed

การดูแลตัวเองหลังเสริมหรือแก้จมูกแบบโอเพ่น (Open Reconstruction) (ระยะเวลา นับจากหลังวันผ่าตัด)

>> บริเวณจมูก

  1. รับประทานยาฆ่าเชื้อที่คลินิกจัดให้ติดต่อกันทุกวันทุกมื้อจนหมด
  2. อาจมีเลือดซึมได้นาน 24 – 48  ชั่วโมงแรก หลังผ่าตัด : ให้หนุนหมอนสูงหน้าตรงหรือ
  3. ใช้หมอนรองคอ อย่าเพิ่งนอนราบ
  4. งดนอนตะแคงเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน
  5. ประคบเย็นบริเวณ รอยต่อของแก้มกับจมูก และบริเวณหน้าผากบ่อยๆ ในช่วงเวลา 3-5 วันแรก หลังผ่าตัด หลังจากนั้นให้ประคบอุ่น
  6. ทางคลินิกจะนัดเข้ามาดูแผลรอบแรกไม่เกิน  72  ชั่วโมง (3 วัน)  หลังทำผ่าตัด  หลังจากนั้นจะให้คนไข้เริ่มทำความสะอาดแผลและทายา
  7. ใช้ไม้พันสำลีปลอดเชื้อ (Sterile) ชุบน้ำเกลือ เช็ดทำความสะอาดหน้าและแผลที่จมูก ให้สะอาด ไม่ให้มีเลือดตกค้างที่แผล ห้ามล้างหน้า และงดแต่งหน้า 7 วัน
  8. ทายาขี้ผึ้ง เช้า-กลางวัน-เย็น โดยใช้ไม้พันสำลีปลอดเชื้อ (Sterile) หาซื้อได้ตามร้านขายยา/ร้านสะดวกซื้อ
  9. * หากมีอาการผิดปกติใดๆ ให้รีบกลับมาพบแพทย์หรือแจ้งทางคลินิกทันที

>> หากมีการใช้กระดูกอ่อนใบหู

  • จะมีการเย็บประกบแผลไว้  จะให้ทายาขี้ผึ้งหลังจากได้รับการนำผ้าปิดแผลที่เย็บไว้ออก เช่นเดียวกับจมูก

>> หากมีการใช้เนื้อเยื่อขมับ 

  • งดสระผมนาน  72  ชั่วโมง หลังจากนั้นอาจสระผมได้ แต่ต้องเลี่ยงบริเวณแผลผ่าตัด 
  • ให้ป้ายยาขี้ผึ้ง  เช้า – กลางวัน – เย็น  หลังจากทางคลินิกได้นำผ้าปิดแผลออก

>> หากมีการใช้กระดูกอ่อนซี่โครง

  • งดโดนน้ำ  1 สัปดาห์ 
  • ให้ป้ายยาขี้ผึ้ง  เช้า – กลางวัน – เย็น  หลังจากทางคลินิกได้นำผ้าปิดแผลออก
  • งดเกร็งหน้าท้อง 
  • เวลาไอ จาม หรือลุกจากเตียงควรกอดหมอนไว้ 1  ใบ

รีวิวจากผู้มารับบริการ

ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือจองคิวแพทย์
คลิกเลย ยินดีให้บริการ