เทคนิคการดูดไขมันมีอะไรบ้าง
เทคนิคการดูดไขมันมีอะไรบ้าง
สำหรับใครที่กำลังสนใจในการดูดไขมัน วันนี้เราจะมาแนะนำเทคนิคและวิธีการดูดไขมันว่าแต่ละวิธีนั้นจะมีรายละเอียดที่ต่างกันอย่างไร และมีวิธีไหนบ้าง ซึ่งเทคนิคการดูดไขมันมีดังต่อไปนี้
1.การดูดไขมันด้วยวิธี "Vaser"
การดูดไขมันวิธี Vaser นั้นจะเป็นการดูดไขมันด้วยการปล่อยพลังงานคลื่นเสียงที่เรียกว่า Ultrasound ในระดับความถี่ที่เหมาะสมเพื่อเข้าไปทำปฏิกิริยากับไขมันทำให้ไขมันกลายเป็นของเหลว จากนั้นจึงใช้เครื่องมือดูดไขมันที่เป็นของเหลวออกมา วิธีนี้จะทำให้เซลล์ผิวหนังได้รับการกระทบกระเทือนน้อยมาก ลดการเกิดรอยฟกช้ำได้อย่างดี แถมยังทำให้แผลหลังจากดูดไขมันหายเร็วอีกด้วย
2.การดูดไขมันด้วยวิธี "Body Tite"
การดูดไขมันด้วยวิธี Body Tite คือ การใช้พลังงาน RF (Radio Frequency) ยิงเข้าสู่ชั้นลึกของผิวหนังไขมัน ทำให้ไขมันสลายเป็นของเหลวก่อนจะถูกดูดออกมา พูดให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือเป็นการปล่อยคลื่นไฟฟ้าในระดับความถี่ที่เหมาะสมและคลื่นความร้อนเพื่อไปสลายไขมันนั่นเองค่ะ
3.การดูดไขมันด้วยวิธี "Water Jet"
การดูดไขมันด้วยวิธี Water Jet นั้นจะเป็นการใช้พลังงานน้ำเข้าไปแยกเซลล์ไขมันออกจากเนื้อเยื่อผิวหนัง ส่งผลให้เซลล์ไขมันดังกล่าวมีสภาพที่สมบูรณ์ค่ะ ทำให้นำไขมันที่ใช้ดูดออกมาไปใช้ประโยชน์ได้อีกต่อหนึ่ง
4.การดูดไขมันด้วยวิธี "Smart Lipo"
การดูดไขมันด้วยวิธี Smart Lipo นั้นจะใช้เลเซอร์ในการสลายเซลล์ไขมัน โดยจะยิงเลเซอร์เข้าไปก่อนหลังจากนั้นจึงนำไขมันออกมา ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการดูดไขมันกึ่งผ่าตัด จะใช้เวลาโดยประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง แต่จะไม่เจ็บมากและไม่ต้องนอนโรงพยาบาลอีกด้วย
5.การดูดไขมันด้วยวิธี "Pal"
Pal หรือ Power Assisted Liposuction เป็นเครื่องมือทุ่นแรงที่แพทย์ใช้ช่วยในการ “ดูดไขมัน” โดยเครื่องมือนี้จะเพิ่มความถี่ของเข็มดูดไขมัน คล้าย ๆ กับการสั่นของแปรงสีฟันไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ดูดไขมันในส่วนที่ยากให้ออกมาง่ายขึ้น มักจะใช้ร่วมกับวิธีดูดไขมันแบบ Body Tite ได้
ทั้งหมดนี้ก็เป็นเทคนิคการดูดไขมันที่มีในปัจจุบัน หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะช่วยในการประกอบการตัดสินใจในดูดไขมันได้ในระดับหนึ่งนะคะ ทั้งนี้ควรจะเข้ารับปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอีกทีหนึ่ง ว่าเทคนิคแบบไหนนั้นเหมาะกับเรานั้นเองค่ะ