การดูดไขมันต้องดมยาสลบหรือไม่

สวัสดีครับ นพ.ปริญ ทัศนาวิวัฒน์ นะครับ

หลายคนมาปรึกษาเรื่องดูดไขมันมักมีคำถามว่าทำไมต้องดมยาสลบล่ะ

การดูดไขมันในหลายๆ คลินิกไม่ได้ดมยาสลบ แถมกลับบ้านได้เลยไม่ต้องนอน พักด้วยซ้ำไป ยาสลบมีความจำเป็นจริงๆ เหรอ ไม่ใช้ได้หรือเปล่า ก่อนที่จะรู้ว่าจำเป็นหรือไม่ เรามารู้จักกันก่อนว่ามีวิธีไหนบ้างที่ช่วยให้ไม่เจ็บเวลาผ่าตัดดีกว่าครับ


การระงับปวดเวลาผ่าตัดทำได้หลักๆ 3 แบบ
โดยสามารถใช้ร่วมกันได้เพื่อให้คนไข้รู้สึกสบายที่สุด

1. ยาชาเฉพาะที่ คือการฉีดยาชาเข้าไปในบริเวณที่จะผ่าตัด ทำให้คนไข้จะรู้ตัวบริเวณผ่าตัด รู้สึกว่ามีแรงกดแรงขยับ อาจจะรู้สึกเจ็บได้เล็กน้อย

2. ยาฉีดเข้าเส้นเลือดดำ เพื่อให้ไม่รู้สึกตัว คนไข้จะหลับไม่รู้สึกตัว แต่อาจจะมีอาการละเมอขยับตัวไปมาขณะผ่าตัดได้ ไม่มีการใส่ท่อช่วยหายใจ

3. ดมยาสลบ คนไข้จะไม่รู้สึกตัว ไม่มีการละเมอขยับตัวระหว่างหลับ ใส่ท่อช่วยหายใจและใช้เครื่องในการหายใจให้คนไข้

ถามว่าควรใช้วิธีไหนดี ต้องบอกว่าแล้วแต่ปริมาณและบริเวณที่จะดูดไขมันครับ เพราะถ้าปริมาณไขมันไม่มากหรือบริเวณเล็กๆ อาจจะไม่จำเป็นต้องดมยาสลบก็ได้

เรามาเปรียบเทียบข้อดี-ข้อเสีย เป็นข้อๆ นะครับ


ข้อดีของยาชาเฉพาะที่
1)คนไข้รู้สึกตัวตลอดเวลาที่ผ่าตัด ดังนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการหยุดหายใจ
2)กลับบ้านได้เลยเนื่องจากไม่มียาที่กดการหายใจตกค้างในร่างกาย

ข้อเสียของยาชาเฉพาะที่
1)จะรู้สึกตัว ทำให้ถ้าเป็นคนที่กังวลกับการผ่าตัดมากอาจจะกังวลหรือกลัว ระหว่างทำ ทำให้อาจจะต้องเลิกกลางคันหรือต้องให้ยาทางเส้นเลือดดำเพิ่มเติมได้
2)เมื่อดูดใกล้ๆ กับกล้ามเนื้อหรือไขมันเริ่มเหลือน้อย อาจจะมีอาการเจ็บได้ ทำให้ทำได้ไม่เต็มที่
3)ถ้าดูดบริเวณที่กว้างๆ หรือไขมันมากๆ จะทำให้ต้องใช้ยาชาเฉพาะที่จนเกินขนาด ทำให้เกิดอันตรายได้
4)บริเวณที่จะดูดไขมันบางที่ดูดยาก ทำให้ต้องอยู่ในท่าที่ไม่ค่อยสบายอาจจะมีอาการเมื่อยขณะผ่าตัดได้


ข้อดีของการฉีดยาเข้าเส้นให้หลับ

1)คนไข้ไม่รู้สึกตัวเลย ช่วยในกรณีที่มีความกังวลมาก
2)คนไข้ไม่รู้สึกตัวเหมือนดมยาสลบ แต่ไม่ต้องใช้เครื่องดมยาและใส่ท่อช่วยหายใจ ทำให้ต้นทุนถูกกว่าดมยาสลบ

ข้อเสียของการฉีดยาเข้าเส้นให้หลับ
1)ถึงแม้จะไม่รู้สึกตัว แต่อาจจะมีการละเมอขยับตัวตอบสนองของร่างกาย ทำให้ผ่าตัดลำบาก
2)ต้องสังเกตอาการอย่างใกล้ชิดขณะผ่าตัดและหลังผ่าตัด เพราะมีโอกาสหยุดหายใจจากยา ทำให้มีอันตรายถึงชีวิตได้
3)บุคลากรที่ทำการฉีดยาควรจะต้องมีความรู้ในการดูแลผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยแต่ละคนต้องใช้ปริมาณยาในขนาดที่ไม่เท่ากัน บางคนต้องใช้ปริมาณยามากบางคนใช้ยาน้อย แนะนำให้เป็นวิสัญญีแพทย์จะดีที่สุด
4)ต้องนอนสังเกตอาการหลังผ่าตัดว่ารู้ตัวดีแล้วค่อยกลับ
5)อาจจะมีการตื่นระหว่างผ่าตัดได้


ข้อดีของการดมยาสลบ
1)ผู้ป่วยไม่รู้สึกตัวและไม่มีการละเมอขยับแขนขาเวลาหลับ ทำให้ผ่าตัดได้ผลที่ดีกว่า
2)การดมยาสลบผู้ป่วยมีท่อและเครื่องช่วยหายใจดูแลการหายใจ โอกาสที่มีปัญหาหยุดหายใจระหว่างผ่าตัดแทบจะไม่มี
3)สามารถดูดไขมันปริมาณมากๆ และหลายๆ จุดได้พร้อมๆ กัน รวมถึงการตัดหนังหน้าท้อง เย็บกล้ามเนื้อหน้าท้อง ก็สามารถทำพร้อมกันไปได้เลย
4)ส่วนใหญ่การดมยาสลบต้องใช้วิสัญญีแพทย์มาดูแลโดยเฉพาะ

ข้อเสียของการดมยาผ่าตัด
1)บางกรณีอาจต้องนอนที่สถานพยาบาลอย่างน้อย 1 คืนเพราะยาที่อยู่ในร่างกายอาจจะอยู่นาน ถึง 24 ชม.ได้
2)อาจจะมีอาการคลื่นไส้หลังผ่าตัด จากการดมยาได้

สรุปจากข้อดีข้อเสียข้างต้นแล้ว คำถามที่ว่าดูดไขมันจำเป็นต้องใช้ยาสลบหรือไม่ คงต้องตอบว่า

ถ้าเราไม่ได้ดูดปริมาณมาก หรือหลายที่ สามารถทำโดยฉีดยาชาเฉพาะที่ได้ เพราะ รู้ตัว ราคาเหมาะสม รู้สึกถึงการดูดไขมันบ้างพอสมควร แล้วแต่คนว่าจะไหวหรือเปล่า คนเรากลัวหรือรับรู้ความเจ็บไม่เท่ากัน และอาจจะมีเมื่อยจากการนอนบางท่านานๆ ได้

แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ปริมาณไขมันมากและที่ๆ ต้องดูดมีหลายที่ การดมยาสลบน่าจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าครับ เพราะหลับไปเลย ไม่มีละเมอขยับตัวทำให้แพทย์ลำบากในการทำ มีวิสัญญีแพทย์ดูแลตอนหลับและตื่น

ไม่ค่อยแนะนำการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำในการผ่าตัดนะครับ เพราะอันตรายกว่า นอกจากจะแน่ใจว่ามีวิสัญญีแพทย์เป็นผู้ดูแลการผ่าตัด ซึ่งถ้าอยากแน่ใจควรสอบถามจากสถานพยาบาลนั้นๆ หรือขอเจอวิสัญญีแพทย์ก่อนผ่าตัดได้นะครับ เพื่อให้เรามั่นใจมากขึ้น